การให้บริการประชาชนกองสวัสดิการสังคม |
1. การลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์
2. การขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยความพิการ
3. การลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
4. การลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ 2561
การลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ |
หลักเกณฑ์
ผู้มีสิทธิจะได้รับเงินสงเคราะห์ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
1. เป็นผู้ป่วยเอดส์ที่แพทย์ได้รับรองและทำการวินิจฉัยแล้ว
2. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองปทุมธานี
วิธีการ
ผู้ป่วยเอดส์ยื่นคำขอตามแบบพร้อมเอกสารหลักฐานต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อุปการะมาดำเนินการก็ได้ โดยสามารถลงทะเบียนได้ตลอดทั้งปีและมีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ในเดือนถัดไป
รายการเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอ
โดยมีหลักฐานพร้อมสำเนาที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องทุกฉบับ ดังต่อไปนี้
1. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด
2. ทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด
4. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้ดำเนินการแทน) จำนวน 1 ชุด
5. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายพร้อมสำเนาของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้ดำเนินการแทน) จำนวน 1 ชุด
6. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพร้อมสำเนาของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ประสงค์ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ผ่านธนาคารของผู้รับมอบอำนาจ) จำนวน 1 ชุด
การลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยความพิการ |
หลักเกณฑ์
คนพิการซึ่งจะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยความพิการ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเทศบาลเมืองปทุมธานี
3. มีบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการฯ
4. ไม่เป็นบุคคลซี่งอยู่ในอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐ
วิธีการ
ให้คนพิการที่ได้จดทะเบียนคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการ ด้วยตนเองต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลำเนา ณ ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสถานที่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด โดยสามารถลงทะเบียนได้ตลอดทั้งปีและมีสิทธิรับเงินเบี้ยความพิการในเดือนถัดไป
รายการเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอ
โดยมีหลักฐานพร้อมสำเนาที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยความพิการลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องทุกฉบับ ดังต่อไปนี้
1. บัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 1 ชุด
2. ทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ (เฉพาะสาขาในกรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้น) พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด
4. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้ดำเนินการแทน) จำนวน 1 ชุด
5. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย พร้อมสำเนาของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้ดำเนินการแทน) จำนวน 1 ชุด
6. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพร้อมสำเนาของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยความพิการประสงค์ขอรับเงินเบี้ยความพิการผ่านทางธนาคารของผู้รับมอบอำนาจ) จำนวน 1 ชุด
การลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ |
หลักเกณฑ์
1. มีสัญชาติไทย
2. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตพื้นที่ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
3. มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยนับจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2561 (ผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2502) ในกรณีที่ในทะเบียนราษฎรไม่ปรากฏวันที่ เดือนเกิด ให้ถือว่าบุคคลนั้นเกิดในวันที่ 1 มกราคมของปีนั้น
4. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำ ยกเว้นผู้พิการและผู้ป่วยเอดส์ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548
วิธีการ
ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเองต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลำเนา ณ สำนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสถานที่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปีและจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีงบประมาณถัดไป
รายการเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอ
โดยมีหลักฐานพร้อมสำเนาที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง ดังต่อไปนี้
1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด
2. ทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ (เฉพาะสาขาในกรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้น) พร้อมสำเนา จำนวน 1 ชุด
4. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน) จำนวน 1 ชุด
5. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย พร้อมสำเนาของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้ดำเนินการแทน) จำนวน 1 ชุด
6. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ พร้อมสำเนาของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประสงค์ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านทางธนาคารของผู้รับมอบอำนาจ) จำนวน 1 ชุด
การลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ 2561 |
หลักเกณฑ์
1. เป็นหญิงตั้งครรภ์ มารดาของเด็กแรกเกิดหรือผู้ปกครองของเด็กแรนเกิด มีสัญชาติไทยอยู่ในครัวเรือนยากจนหรือเสี่ยงต่อความยากจน คือมีรายได้รวมของครัวเรือนทั้งหมดหารเฉลี่ยสมาชิกในครัวเรือนอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยไม่เกิน 3,000 บาท ต่อเดือนต่อคน หรือ ไม่เกิน 36,000 บาทต่อคนต่อปี
2. กรณีเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด แต่ไม่เป็นบุคคลที่มีสิทธิได้รับสวัสดิการจากรัฐตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการจากรัฐตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐต้องแสดงข้อมูลตามแบบรับรองสถานะครัวเรือน (ดร.02 ส่วนที่ 1 : ผู้ลงทะเบียน) เพิ่มเติม ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561
3. กรณีหญิงตั้งครรภ์หรือมารดาเด็กแรกเกิดเป็นคนต่างด้าว หรือบุคคลไร้สถานะทางทะเบียนราษฎร์ ภายหลังเด็กเกิดให้ผู้ปกครองของเด็กแรกเกิดเป็นผู้ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
4. กรณีผู้ลงทะเบียนได้ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึง กันยายน 2560 ให้ถือว่าเป็นผู้ได้ลงทะเบียนขอรับสิทธิแล้ว
5. กรณีเด็กที่เกิดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึงกันยายน 2560 แต่มารดา บิดาหรือผู้ปกครอง มิได้ลงทะเบียนขอรับสิทธิเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยรับเงินรายละ 600 บาท ต่อเดือน ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนจนถึงเด็กอายุครบ 3 ปี
6. เด็กที่เกิดในปีงบประมาณ 2561 (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ถึง 30 กันยายน 2561) และมารดา บิดาหรือผู้ปกครองยื่นลงทะเบียนขอรับสิทธิเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ภายในวันที่ 30 กันยายน 2561 จะได้รับเงินรายละ 600 บาท ต่อเดือน ตั้งแต่เดือนที่เด็กเกิดจนเด็กอายุครบ 3 ปี
ทั้งนี้ เด็กต้องมีสัญชาติไทย โดยบิดาและมารดา หรือโดยบิดาหรือมารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย ซึ่งอยู่ในครัวเรือนยากจนหรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน และอาจเป็นผู้ได้รับเงินสงเคราะห์เป็นครั้งคราวหรือเบี้ยความพิการ หรือเงินสงเคราะห์เป็นครั้งคราวหรือเบี้ยความพิการหรือเงินสงเคราะห์บุตรจากกองทุนประกันสังคม ทั้งนี้ต้องไม่เป็นผู้ได้รับเงินช่วยเหลือในการเลี้ยงดูบุตรจากหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรืออยู่ในความอุปการะของหน่วยงานของรัฐ
วิธีการ
ผู้มีคุณสมบัติข้างต้นให้ยื่นลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่
เอกสารหลักฐานประกอบการลงทะเบียน โดยเตรียมหลักฐาน ได้แก่
1. แบบลงทะเบียน (ดร.01) จำนวน 1 ชุด
2. แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02) จำนวน 1 ชุด
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของหญิงตั้งครรภ์ หรือมารดาของเด็กแรกเกิด หรือบิดาของเด็กแรกเกิน หรือผู้ปกครองของเด็กแรกเกิดแล้วแต่กรณี จำนวน 1 ชุด
4. สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) จำนวน 1 ชุด
5. สำเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก (หน้า 1) จำนวน 1 ชุด
6. สำเนาสูติบัตรเด็ก 1 ฉบับ (กรณียื่นหลังคลอด) จำนวน 1 ชุด
7. สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 1 ชุด
8. สำเนาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 1 ชุด